เชื่อว่าต้องมีหลายคนแน่ ๆ ที่ใช้รถยนต์แล้วซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์ กันอยู่ทุกปี แต่ก็ไม่ได้สนใจว่า พ.ร.บ. ที่ซื้อกันอยู่ทุกปีนี้สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง รู้แค่ว่าต้องซื้อ เพราะถ้าไม่ซื้อจะต่อทะเบียนรถไม่ได้ ซึ่งถ้าใครที่ไม่รู้ประโยชน์ที่ซ่อนไว้เราบอกเลยว่าไม่แปลก วันนี้เราก็เลยจะพาทุกคนไปดูประโยชน์ของ พ.ร.บ. รถยนต์ ที่รู้ไว้เป็นความรู้ก็ดี หรือในยามฉุกเฉินที่อาจจะต้องใช้ประโยชน์ขึ้นมาก็จะได้ไม่งง นำไปใช้กันได้ทันที รับรองว่าเป็นสิ่งที่จะช่วยชีวิตหลาย ๆ คนได้แน่นอน

ทำความรู้จัก พ.ร.บ. รถยนต์ สิ่งที่ขาดไม่ได้ของคนใช้รถใช้ถนน

พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นประกันภัยภาคบังคับ ซึ่งมีกฎหมายออกมาเลยว่ารถยนต์ทุกคันจะต้องทำประกัน พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 หากฝ่าฝืนจะมีโทษทางกฎหมาย และจะต้องแสดงต่อเจ้าหน้าที่ทุกครั้งที่มีการใช้รถ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทุกคนต้องพก พ.ร.บ. รถยนต์ ติดรถไว้นั่นเอง ส่วนที่ต้องบังคับให้ทำ พ.ร.บ. รถยนต์ นั้น ก็เพราะว่าทางภาครัฐต้องการที่จะคุ้มครอง และช่วยเหลือบุคคลในกรณีที่มีอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยนต์ โดยประกันภัยตัวนี้จะช่วยให้ผู้บาดเจ็บได้รักษาอย่างทันท่วงที และยังเป็นหลักประกันให้กับโรงพยาบาลได้อีกด้วย

สิทธิประโยชน์ที่คุณจะได้รับจาก พ.ร.บ. รถยนต์ รู้ไว้จะได้ไม่เสียสิทธิ์

ส่วนสิทธิประโยชน์ที่ทุกคนจะได้รับจาก พ.ร.บ. รถยนต์ นั้น ก็มีมากมาย เขาคุ้มครองให้อย่างครอบคลุมทั้งคนขับ คนโดยสาร หรือคนที่สัญจรไปมาแล้วเป็นผู้ประสบภัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากรถยนต์ ไม่ว่าจะเกิดความเสียหายกับชีวิต หรือทรัพย์สิน ตัวพ.ร.บ. รถยนต์ ก็คุ้มครองให้ทั้งหมด และถ้าถามว่าแล้วรถชนิดไหนบ้างที่อยู่ในการคุ้มครองของพ.ร.บ. รถยนต์ คำตอบก็คือรถที่ไว้ใช้งานทุกชนิดเลย บังคับซื้อกันทุกปี จะเป็นรถเก๋ง รถ SUV รถนำเข้าหรืออะไรก็ตามพ.ร.บ. รถยนต์ เขาคุ้มครองให้ทุกประเภท พร้อมแล้วก็ตามไปดูสิทธิประโยชน์ของ พ.ร.บ. รถยนต์ กันดีกว่า เริ่ม!

• คุ้มครองทันทีหลังเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ก็สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามจริง วงเงินไม่เกิน 30,000 บาท บางโรงพยาบาลก็ไม่จำเป็นต้องสำรองจ่ายไปก่อนเลย และในกรณีที่เกิดการทุพพลภาพถาวร สูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิต จะได้รับเงินชดเชยวงเงิน 35,000 บาท

• กรณีที่เป็นฝ่ายถูก เบิกค่ารักษาพยาบาลตามจริง วงเงินไม่เกิน 80,000 บาท ผู้ป่วยใน นอนโรงพยาบาล จะได้รับเงินชดเชยวันละ 200 บาท แต่ไม่เกิน 20 วัน และถ้าหากเกิดการทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต จะได้รับเงินชดเชยวงเงิน 500,000 บาท

• กรณีที่เป็นฝ่ายถูก แล้วเกิดสูญเสียอวัยวะ จะได้รับเงินชดเชยที่แตกต่างกันออกไป คือ นิ้ว 200,000 บาท หูหนวก หรือเป็นใบ้ 250,000 บาท อวัยวะอื่นที่กระทบต่อการดำรงชีวิต 250,000 บาท สูญเสียอวัยวะ 1 ข้าง 250,000 บาท และ 2 ข้าง 500,000 บาท

เป็นสิทธิประโยชน์ที่ทุกคนควรจะรู้ไว้ ในกรณีฉุกเฉินจำเป็นน่าจะมีประโยชน์สำหรับหลาย ๆ คนได้แน่นอน ส่วนการยื่นเคลมนั้น หลังจากเกิดอุบัติเหตุให้แจ้งความลงบันทึกประจำวัน เข้ารับการรักษาพยาบาล ขอใบรับรองแพทย์ และใบเสร็จมาให้เรียบร้อย ตอนยื่นเคลมก็ให้แนบเอกสารบันทึกประจำวัน ใบเสร็จ ใบรับรองแพทย์ และสำเนาบัตรประชาชนของผู้ประสบภัยให้บริษัทประกันที่ซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์ ไว้ได้เลย แล้วก็อย่าลืมซื้อพ.ร.บ. รถยนต์ ต่ออายุไว้อย่าให้ขาด เป็นสิ่งจำเป็นที่คนใช้รถยนต์ต้องให้ความสำคัญมากถึงมากที่สุด

ที่มา : www.tipinsure.com